Ads 468x60px

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ดอกไม้กับผีเสื้อ





               ดอกไม้สำหรับผีเสื้อกลางคืนมักมีสีอ่อน ลักษณะเป็นท่อยาวและเล็ก  ไม่มีที่ให้เกาะ  มีน้ำหวานอยู่ลึกลงไปในดอกไม้  และบานส่งกลิ่นหอมในตอนกลางคืน  ส่วนดอกไม้สำหรับผีเสื้อกลางวันมักมีสีสด หลายชนิดมีสีแดง  โดยมากมักมีขนาดเล็กกว่าดอกไม้สำหรับผีเสื้อกลางคืน  แต่จับกลุ่มกันเป็นดอกรวมให้ผีเสื้อเกาะได้
              ผีเสื้อและแมลงต่าง ๆ มองเห็นสีสันของดอกไม้แตกต่างไปจากที่คนเรามองเห็น  ทั้งนี้เพราะมันสามารถมองเห็นแสงในย่านอัลตราไวโอเลต เมื่อฉายด้วยแสงอัลตราไวโอเลต ไปบนดอกไม้ที่เรามองเห็นว่าเป็นสีเรียบ ๆ  แมลงจะเห็นว่าบนกลีบดอกมีเส้นสีเข้มมากมาย  เส้นสีเข้มนี้เรียกว่า nectar  guide   ซึ่งจะชี้นำให้แมลงเข้าไปหาน้ำหวานที่อยู่กลางดอก

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับผีเสื้อ


ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับผีเสื้อ

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตย์สถาน พ.ศ.2542  ให้ความหมายของผีเสื้อว่า เป็นชื่อแมลงทุกชนิดในอันดับ Lepidoptera  มีปีกเป็นแผ่นบาง 2 คู่ ลำตัว  ปีกและขา ปกคลุมด้วยเกล็ดขนาดเล็กมากคล้ายฝุ่น  เมื่อมองด้วยตาเปล่า  เกล็ดเหล่านี้ทำให้เกิดสีต่าง ๆ กัน  ปากเป็นงวงม้วนเข้าอยู่ใต้หัวได้   มีทั้งชนิดที่หากินในเวลากลางวันเรียกว่า "ผีเสื้อกลางวัน"   และชนิดหากินในเวลากลางคืนเรียกว่า "ผีเสื้อกลางคืน"
จากคำอธิบายดังกล่าว   แสดงว่าผีเสื้อจัดเป็น แมลงชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในอันดับเลปิดอปเทอรา (Order Lepidoptera ) ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษากรีก  2 คำ คือคำว่า เลพิส”(Lepis) แปลว่า เกล็ดและคำว่า เทอรอน” (pteron)  แปลว่า ปีกรวมกันแล้วแปลว่า ปีกมีเกล็ดตรงตามลักษณะของผีเสื้อซึ่งมีปีกที่ปกคลุมด้วยเกล็ด

ส่วนประกอบของผีเสื้อ


ผีเสื้อเป็นแมลงชนิดหนึ่ง   ดังนั้นจึงมีส่วน ประกอบเหมือนแมลงทั่วไป    กล่าวคือมีลำตัวยาวหรือ ค่อนข้างยาว    ลำตัวซีกซ้ายขวามีลักษณะเหมือนกัน (bilateral symmetry)   แบ่งลำตัวออกเป็น 3 ส่วน  คือ ส่วนหัว (head)  ส่วนอก (thorax)  และส่วนท้อง (abdomen)

    1. ส่วนหัว (head)   ประกอบด้วย  ตา(eye)  หนวด(antennae)   และปาก(mouth)  
            ตา (eye)   ประกอบด้วยตา 2 ชนิด  คือ  ตารวม (compound eyes)   และตาเดี่ยว (simple eyes)
                     ตารวม มี 2 ตา  ประกอบขึ้นด้วยเลนส์จำนวนมาก  รวมกันทำหน้าที่ในการมองสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะการรับรู้ภาพวัตถุที่เคลื่อนไหว   
                     ตาเดี่ยว   เป็นตาขนาดเล็กใช้ในการรับรู้แสง สว่างและรับรู้เวลากลางวันและกลางคืน
            หนวด (antennae)    มีอยู่ 2 เส้นอยู่ระหว่างตารวมหรือใต้ตารวม ใช้ในการดมกลิ่น
            ปาก (mouth)   มีลักษณะเป็นท่อครึ่งวงกลม ประกบกันเป็นหลอด  เรียกว่า  proboscis สามารถ ม้วนตัวขดไว้ที่ใต้หัวใช้ดูดของเหลว ที่ปลายท่อมีต่อมรับรส  การยืดของปากใช้แรงดันเลือด  ส่วนการม้วนกลับใช้กล้ามเนื้อ
            
    2. ส่วนอก  (thorax)  แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ  อกปล้องหน้า(prothorax)   อกปล้องกลาง (me -sothorax)   และอกปล้องหลัง (metathorax)       
            ขา (leg)   มี 3 คู่ 6 ขา  โดยที่อกแต่ละส่วนจะมีขาหนึ่งคู่  ยกเว้นผีเสื้อในวงศ์ขาหน้าพู่  ขาคู่หน้า (foreleg)  ซึ่งติดกับอกปล้องแรกจะหดสั้นลง มีลักษณะคล้ายพู่
            ปีก  (wing)   มี 2 คู่   เป็นแผ่นไคตินบาง ๆ  ยืดออกมาจากส่วนอก  โดยจะมีปีกที่อกปล้องกลาง และอกปล้องหลังเท่านั้น ปีกที่อกปล้องกลางเรียกว่าปีกคู่หน้า”  และปีกที่อกปล้องหลังเรียกว่า ปีกคู่หลัง”   ปีกคู่หน้ามีเส้นปีก 12 เส้น  ปีกคู่หลัง มีเส้นปีก 9 เส้น

    3. ส่วนท้อง  (abdomen)   มีลักษณะเป็น ปล้อง  มี 11 ปล้อง ที่ด้านข้างของท้องมีรูหายใจปล้องละคู่  และยังเป็นที่ตั้งของ อวัยวะสำหรับการย่อยและการขับถ่าย  รวมทั้งอวัยวะเพศด้วย